Wednesday, November 21, 2007

คืนความสดใสให้แม่น้ำเจ้าพระยาในวันกองทัพเรือ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐







๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ วันกองทัพเรือ วันสำคัญยิ่งของเหล่าทหารเรือทุกคน เป็นวันที่พวกเราทหารเรือ น้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๔๙ และได้พระราชทานพระราชหัตถเลขาไว้ในสมุดเยี่ยมของโรงเรียนนายเรือว่า “วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ เราจุฬาลงกรณ์ ปร.ได้มาเปิดโรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจ ซึ่งได้เหนการทหารเรือมีรากหยั่งลงแล้วจะเปนที่มั่นสืบไปในภายน่า” กองทัพเรือ จึงได้ถือวันมหามงคลนี้เป็นวันกองทัพเรือมาตราบจนปัจจุบันนี้
ในวันกองทัพเรือ นอกจากการประกอบพิธีทำบุญทางศาสนาแล้ว กิจกรรมที่กองทัพเรือดำเนินการมาโดยตลอด คือ การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อส่วนรวม ด้วยตระหนักอยู่เสมอว่า กองทัพเรือ เป็น กองทัพเรือเพื่อประชาชน
กิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เนื่องในวันกองทัพเรือจะเริ่มทำกันตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ โดยจัดกำลังพลเข้าดำเนินการพัฒนาบริเวณวัดในพื้นที่ใกล้เคียงกับกองบัญชาการกองทัพเรือทั้งวัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร และวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ซึ่งจะทำความสะอาด พัฒนาพื้นที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์และทัศนียภาพของบริเวณพื้นที่โดยรอบของวัดให้สวยงาม สะอาดตา เป็นที่เจริญตา เจริญใจ แก่พุทธศาสนิกชนที่ได้ไปร่วมทำบุญที่วัด นับเป็นการบำรุงพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง
ส่วนกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ นั้น เป็นกิจกรรมสำคัญที่กองทัพเรือได้น้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า “น้ำคือชีวิต” และพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาแม่น้ำต่างๆ และขอให้คนกรุงเทพมหานครช่วยกันรักษาแม่น้ำเจ้าพระยา โดยกองทัพเรือ ได้ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางระหว่างสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า-สะพานพระพุทธยอดฟ้า แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงประชาชนชาวไทยมานานแสนนาน เป็นแหล่งคมนาคม
แหล่งประมง แหล่งหล่อเลี้ยงเกษตรกรกระดูกสันหลังของชาติให้ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง และประเทศชาติมายาวนานหลายชั่วอายุคน แต่น่าเสียดายที่แม่น้ำสายหลักสายสำคัญนี้กลับถูกละเลย ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ จากผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ทั้งหลาย ทั้งการทิ้งขยะสิ่งปฏิกูล การปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ การรั่วไหลของน้ำมันจากพาหนะที่ใช้สัญจร รวมถึงการก่อสร้างรุกล้ำลงไปในแม่น้ำ กว่าพวกเราจะตระหนักว่าได้ทำร้ายแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีพระคุณกับพวกเรา สภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เคยใสสะอาดก็เริ่มเปลี่ยนไปตามผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเป็นพิษที่ถาโถมเข้าใส่ กองทัพเรือซึ่งมีกองบัญชาการตั้งอยู่ ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เห็นความสำคัญของการช่วยกันรักษาแม่น้ำเจ้าพระยา ได้จัดกิจกรรมทำความสะอาดแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำอยู่แล้ว และในโอกาสวันกองทัพเรือนี้ กิจกรรมกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดเพื่อคืนความสดใสให้แม่น้ำเจ้าพระยา จึงถูกบรรจุเป็นกิจกรรมที่กองทัพเรือจะระดมสรรพกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากการทำความสะอาดแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วยังจะจัดให้มีการรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาเห็นความสำคัญและร่วมมือกันในการรักษาความสะอาดแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
และในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ยังมีกิจกรรมบริจาคโลหิต ณ ห้องอรุณอมรินทร์ หอประชุมกองทัพเรือ โดยถือว่าการให้โลหิตเป็นการให้ชีวิตช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีกำลังพลของกองทัพเรือเข้าร่วมเป็นจำนวนมากทุกครั้ง ส่วนในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ มีกิจกรรมปล่อยปลาคืนสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ณ บริเวณท่าเทียบเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ เพื่อคืนชีวิตสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
๑๐๑ ปี ที่กองทัพเรือ ยึดปณิธานแน่วแน่ในการปฏิบัติหน้าที่ธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ การปกป้องคุ้มครองอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การพัฒนาประเทศ และการช่วยเหลือประชาชน ในวันกองทัพเรือที่จะถึงนี้นอกจากกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นแล้ว ทุกหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ยังได้จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบอย่างพร้อมเพรียงกัน
------------------------------------
ผลิตโดย กองปกิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ
ตีพิมพ์ในเดลินิวส์ ประจำวันเสาร์ที่ ๑๗ พ.ย.๕๐ ย่อยข่าว

No comments: