Wednesday, December 19, 2007

ผลสำเร็จของโครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล

ปี พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นปีที่ปวงชนชาวไทยถือเป็นปีมหามงคลยิ่ง เนื่องจากเป็นปีที่พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งกองทัพเรือ
ต่างรวมใจเป็นหนึ่ง ร่วมกันจัดโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน
โครงการเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ของกองทัพเรือ ประกอบด้วย ๘ โครงการและ ๑ กิจกรรม ล้วนประสบผลสำเร็จด้วยดี ซึ่งโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ประกอบด้วย
โครงการจัดสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเฉลิมพระเกียรติ

เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า “เรือรบขนาดใหญ่มีราคาแพง และมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานสูง กองทัพเรือจึงควรใช้เรือที่มีขนาดเหมาะสมและสร้างได้เอง ซึ่งเมื่อสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.๙๑ ได้แล้ว ควรขยายแบบเรือให้ใหญ่ขึ้นและสร้างเพิ่มเติม” ประกอบกับแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน กองทัพเรือได้สนองพระราชดำริด้วยการต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.๙๙๑ ประกอบด้วย หรือ ต.๙๙๑ สร้างโดยกรมอู่ทหารเรือ เรือ ต.๙๙๒ และเรือ ต.๙๙๓ กองทัพเรือได้ว่าจ้างให้บริษัท มาร์ซัน จำกัด ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือเอกชนในประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการสร้าง และกองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในเรื่องขนาดรูปทรงของเรือและน้ำหนัก รวมทั้งการใช้เชื้อเพลิงและการออกแบบเพื่อให้เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งลำใหม่ชุดนี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีสมรรถนะสูงสุด เรือชุดนี้จึงเป็นเรือรบแห่งพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง
ซึ่งขีดความสามารถสมรรถนะของเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.๙๙๑ นั้น สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการทั้งในทะเลอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน มีศักยภาพในการตรวจจับ ติดตาม พิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ และเป้าอากาศยาน ได้ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และกล้องตรวจการณ์แบบ TV และแบบ Thermal Image ตลอดจนมีระบบอาวุธที่มีความสามารถในการหยุดยั้ง ป้องปราม ทำลายเรือผิวน้ำขนาดเล็กได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเรือตรวจสอบเรือต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย คุ้มครองเรือประมง รวมทั้งป้องกันทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลได้อีกด้วย อาจกล่าวได้ว่าเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.๙๙๑ นี้ ได้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้อย่างได้ผลดียิ่ง ทำให้เรือมีคุณค่า สมรรถนะสูงมีความคุ้มค่า ยิ่งกว่า คุ้มทุน โดยกองทัพเรือได้รับมอบเรือชุดนี้เมื่อวันที่
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ และจะนำขึ้นน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในนามพสกนิกรชาวไทยในปลายปี พ.ศ.๒๕๕๐ ต่อไป และในวันที่ ๕ ธ.ค.๕๐ จะจอดเรือประดับไฟที่สะพานพระราม โครงการวิถีชีวิตข้าราชการกองทัพเรือตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ

เป็นอีกโครงการหนึ่งที่กองทัพเรือน้อมนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางปฏิบัติ เน้นการดำเนินชีวิตบนทางสายกลางบนพื้นฐานของความมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการดำรงชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล มีระบบคุ้มกันที่ดี อาศัยความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐานการดำเนินชีวิต มุ่งส่งเสริมให้กำลังพลของกองทัพเรือ สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวให้ดีขึ้น
หารายได้เสริมนอกเวลาราชการ สร้างมาตรฐานการควบคุมมิให้กำลังพลของกองทัพเรือและครองครัวก่อหนี้สินเพิ่มเติม
การดำเนินการมีทั้งการตั้งศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม ศูนย์การเรียนรู้ศิลปะประดิษฐ์กลุ่มแม่บ้าน ศูนย์การเรียนรู้โครงการเกษตรผสมผสานตามหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ
การอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการและการแจกจ่ายสมุดบัญชีครัวเรือน จำนวน ๑๔,๐๐๐ เล่ม ทำให้กำลังพลและครอบครัวสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขด้วยการพึ่งพาตนเอง ศูนย์การเรียนรู้ตามหน่วยต่าง ๆ ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง มีความก้าวหน้าในการดำเนินการร้อยละ ๗๕ ดังเช่นศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ ของศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้ทำการปลูกข้าวและมีกิจกรรมเกี่ยวข้าวในแปลงนาไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๙ มิ.ย.๕๐ ศูนย์การเรียนรู้โครงการเกษตรผสมผสานของฐานทัพเรือสัตหีบที่ทำพืชผักสวนครัว เลี้ยงปลา อนุรักษ์และขยายพันธุ์พืชอย่างได้ผลดี
โครงการลด ละ เลิกสูบบุหรี่กองทัพเรือเฉลิมพระเกียรติ

โครงการที่ดำเนินการภายใต้คำขวัญ “เลิกบุหรี่หนึ่งในความดี ถวายในหลวง” จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการรณรงค์ ส่งเสริมพฤติกรรมกำลังพลให้ ลด ละ เลิกบุหรี่ ได้มากกว่า ๒,๕๕๐ นาย รวมทั้งให้หน่วยในกองทัพเรือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.๒๕๓๕ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
การดำเนินการมีทั้งการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การจัดกิจกรรมเพื่อผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการไม่สูบบุหรี่ สร้างบรรยากาศที่ดีในสถานที่ทำงานหรือสถานที่ปฏิบัติงานต่าง ๆ ทั้งในที่ตั้งปกติและในเรือ จัดตั้งศูนย์ประสานงานโครงการ จัดตั้งคลินิกเลิกสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล ด้วยความมุ่งมั่นในการทำความดีถวายในหลวง ทำให้มีผู้ที่สามารถลด ละ เลิก สูบบุหรี่ได้รวมจำนวนทั้งสิ้นถึง ๖,๘๘๑ นาย (ผู้ลดการสูบบุหรี่ ๕,๐๓๘ นาย, ผู้ละการสูบบุหรี่ ๑,๐๐๕ นาย และผู้เลิกสูบบุหรี่ ๘๓๘ นาย) ซึ่งผู้ที่เลิกสูบบุหรี่และหน่วยปลอดบุหรี่ ตัวอย่าง จำนวน ๑๒ หน่วย จะได้รับโล่และประกาศนียบัตรจาก พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในพิธีปิดโครงการในวันที่ ๒๙ พ.ย.๕๐ ณ ฐท.กท. สำหรับการรณรงค์ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ จะยังคงดำเนินการต่อโดยกรมแพทย์ทหารเรือ และกรมจเรทหารเรือจะรับผิดชอบดำเนินการต่อไป
โครงการสะพานชมภูมิประเทศป้อมพระจุลจอมเกล้า เฉลิมพระเกียรติ


ป้อมพระจุลจอมเกล้า อดีตปราการด่านพิทักษ์ทางทะเล ในพื้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นป้อมที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มีพระราชประสงค์ให้เป็นที่มั่นในการป้องกันและตั้งรับข้าศึก โดยป้อมพระจุลจอมเกล้าได้มีโอกาสรับใช้ชาติและสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มที่และสมเกียรติในการยุทธ์ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาหรือวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ในป้อมมีสถานที่สำคัญ ประกอบด้วยพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ในชุดจอมทัพเรือ ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาของป้อมพระจุลจอมเกล้า พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง อุทยานประวัติศาสตร์ทหารเรือ และนอกจากนั้น ป้อมพระจุลจอมเกล้ายังมีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งพันธุ์ไม้ป่าชายเลน อาทิ ลำพู แสม โพธิ์ทะเล โกงกาง ตะบูน เป็นแหล่งอาศัยสัตว์น้ำนานาชนิด เช่น ปลาตีน ปูแสม และนกน้ำนานาชนิด กองทัพเรือโดยฐานทัพเรือกรุงเทพจึงจัดทำโครงการสะพานชมภูมิประเทศขึ้น เพื่อให้ป้อมพระจุลจอมเกล้าเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ สะพานมีลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กยาวประมาณ ๑๑๐ เมตร กว้าง ๒.๕๐ เมตร ยื่นลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือได้อย่างสะดวกสบาย ขณะนี้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และจะประกอบพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ นี้
โครงการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ


กองทัพเรือโดยกรมแพทย์ทหารเรือ จะทำการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยในทดแทนอาคารผู้ป่วยในเดิมของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ที่เสื่อมสภาพเพราะอายุใช้งานกว่า ๕๐ ปี เป็นอาคารสูง ๙ ชั้น เพื่อใช้เป็นอาคารผู้ป่วยใน ห้องผ่าตัดและห้องคลอด มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพงานบริการด้านสาธารณสุข ให้บริการแบบรวมศูนย์ ในลักษณะ One Stop Service มีอาคารด้านบริการรักษาพยาบาลที่มั่นคง ปลอดภัยและสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ รวมทั้งเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โรงพยาบาลและชุมชนโดยรวม ขณะนี้ได้ดำเนินการทุบทำลายอาคารศัลยกรรมชาย/หญิง และตึกศัลยกรรม ๒ จำนวน ๒ หลังแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการขออนุมัติแบบ ตำบลที่และประมาณการงานก่อสร้าง โดยกำหนดวางศิลาฤกษ์ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐
โครงการหอประวัติอุทกศาสตร์ไทยเฉลิมพระเกียรติ

กองทัพเรือโดยกรมอุทกศาสตร์ จัดสร้างหอประวัติอุทกศาสตร์ไทยขึ้นบริเวณชั้น ๓ ของอาคารกองบังคับการกรมอุทกศาสตร์บางนา เพื่อเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้และแหล่งข้อมูลด้านอุทกศาสตร์ วิศวกรรมชายฝั่ง เวลามาตรฐานของประเทศไทยตามมาตรฐานสากล ความปลอดภัยในการเดินเรือ และงานด้านสมุทรศาสตร์ รวมทั้งแสดงวิวัฒนาการของกรมอุทกศาสตร์จากอดีต - ปัจจุบัน การอนุรักษ์สิ่งของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ได้แก่ แผนที่เดินเรือ เครื่องมือเครื่องใช้ภาพถ่ายเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ รวมทั้งการถวายรายงานให้แก่พระราชวงศ์ในกิจการงานเกี่ยวกับอุทกศาสตร์ ตลอดจนงานในโครงการพระราชดำริที่ทรงคุณประโยชน์ต่อพสกนิกรและประเทศชาติ โดยโครงการดังกล่าวทำพิธีเปิดไปแล้ว เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๐ และเปิดให้ประชาชนและนักเรียนเข้าเยี่ยมชมศึกษาหาความรู้ได้ในเวลาราชการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อเข้าเยี่ยมชมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒ ๓๖๑ ๒๙๑๕
โครงการจัดหาเครื่องฝึกจำลองยุทธ์ NWS 980 เฉลิมพระเกียรติ

กองทัพเรือโดยสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูงได้ทำการวิจัยและพัฒนาระบบจำลองยุทธ์ด้วยการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในการพึ่งพาตนเอง โดยไม่ต้องจัดหาจากต่างประเทศ ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้ถึงกว่า ๒๐๐ ล้านบาท ซึ่งเครื่องฝึกจำลองยุทธ์นี้ได้มีการพัฒนาให้ทันสมัยมีคุณลักษณะและขีดความสามารถตรงตามความต้องการใช้งานสนับสนุนการฝึกยุทธกีฬาของหลักสูตรต่าง ๆ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง จึงได้นำมาปรับใช้กับหลักสูตรกองทัพเรือไทย และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Naval Wargame Simulator 980 หรือ NWS 980 โดย เลข 9 หมายถึงรัชกาลที่ 9 ส่วนเลข 80 หมายถึงเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา นับเป็นอีก ๑ โครงการที่กองทัพเรือยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูงได้รับโล่จากท่านผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะหน่วยเจ้าของผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ แก่กองทัพเรือ สมควรได้รับการยกย่องและประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งคณะทำงานวิจัยและพัฒนาประกอบด้วย
น.อ.สุรภักดิ์ ธาราจันทร์ ผอ.กจล.ศยร.สรส./หน.คณะทำงาน
น.อ.สาคร ปั่นเมืองปัก รอง ผอ.กจล.ศยร.สรส./คณะทำงานและเลขานุการ
น.ท.สุรเชษฎ์ บัวสุวรรณชัย นคน.แผนกกรรมวิธีข้อมูล กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
น.ต.สิทธิ์ สุวรรณภักดี นซบ.แผนกซ่อมบำรุง กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
น.ต.ธานินทร์ เอกเชิดชูศาสน์ นวร.แผนกกรรมวิธีข้อมูล กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
น.ต.สัมฤทธิ์ โพธิ์เขียว นซบ.แผนกซ่อมบำรุง กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
น.ต.ธวัชชัย เพิ่มลาภ นวร.แผนกกรรมวิธีข้อมูล กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
ร.อ.คมกฤษ กาญจนานุวัฒน์ นซบ.แผนกซ่อมบำรุง กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
ร.อ.ธีระพงษ์ สนธยามาลย์ นคน.แผนกกรรมวิธีข้อมูล กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
ร.อ.หญิง สุภารัตน์ แก้วนุ้ย นคน.แผนกกรรมวิธีข้อมูล กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน
ร.ต.ไพบูลย์ นาสมจิตร นวร.แผนกกรรมวิธีข้อมูล กจล.ศยร.สรส./คณะทำงาน

ปัจจุบัน โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้บัญชาการทหารเรือได้มาตรวจเยี่ยมโครงการฯ เมื่อวันที่
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๐ และกำหนดจะเปิดอย่างเป็นทางการภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐
โครงการเรือพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ

กองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนในการต่อเรือและจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ ในพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำหลักของกรุงเทพฯ ระหว่างสะพาน
กรุงธนบุรี - สะพานพระราม ๙ ซึ่งเรือพยาบาลนี้จะมีความคล่องตัว มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตครบครัน สามารถเข้าถึงผู้ป่วยเพื่อช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยทางน้ำไปส่งโรงพยาบาลได้เร็วที่สุด โดยหลังจากรับมอบเรือพยาบาลเฉลิมพระเกียรติแล้ว กองเรือลำน้ำ
กองเรือยุทธการ จะเป็นหน่วยดูแลรักษาและจัดเจ้าหน้าที่ประจำเรือในการออกปฏิบัติภารกิจ โดยโรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพฯ จะจัดเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำในเรือทำหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ผู้ประสบภัยทางน้ำ และจะนำเรือลาดตระเวนทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง (ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ของทุกสัปดาห์) ครั้งละ ๒ ชั่วโมง โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ ๑ ก.ย.๕๑ – ๓๑ ม.ค.๕๒ เป็นระยะเวลา ๕ เดือน ส่วนในช่วงนอกเวลาราชการและนอกเวลาของการลาดตระเวน เรือจะจอดรอรับสถานการณ์ที่หมวดเรือที่ ๓ กองเรือลำน้ำ เรือรอรับการประสานงานเตรียมออกเรือได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ขณะนี้กำลังดำเนินการเสนอกองทัพเรือโอนงบประมาณให้กรมอู่ทหารเรือจัดหาเรือซึ่งจะสามารถหาผู้รับจ้างและลงนามในสัญญาจ้างได้ภายใน ธ.ค.๕๐
กิจกรรมกาชาดคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ


กองทัพเรือได้ร่วมกับสภากาชาดไทยจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี
พ.ศ.๒๕๐๔ เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย รวมทั้ง
ยังเป็นการเผยแพร่ดนตรีแนวเพลงคลาสสิกให้เป็นที่แพร่หลายแก่บุคคลทั่วไป สำหรับปีมหามงคลนี้กองทัพเรือได้นำเพลงพระราชนิพนธ์บรรเลงและขับร้อง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่
พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ในปีนี้ได้จัดการแสดง ๒ วัน ในวันที่ ๑๙ และ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๐ โดยในวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เป็นองค์ประธาน
และทอดพระเนตรการแสดง
นอกจากนั้น กองทัพเรือยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดขบวน
พยุหยาตราทางชลมารคในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราม
เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ นับเป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมวันทรงคุณค่า เปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ตามราชประเพณีทุกประการ
จะเห็นได้ว่าทุกโครงการและกิจกรรมที่กองทัพเรือ จัดทำขึ้นในโอกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ นั้น กองทัพเรือล้วนน้อมนำแนวพระราชดำริและพระอัจฉริยภาพด้านต่าง ๆ ของพระองค์ท่าน มาเป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน และยังเป็นการเสริมสร้างให้กองทัพเรือสามารถทำงานรับใช้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมกับคำขวัญที่ว่า “กองทัพเรือ เพื่อราษฎร์ และราชนาวี”
---------------------------------
กำลังเสนอให้วาสารนาวิกศาสรต์ลงพี่ติมพ์