Thursday, March 13, 2008

๑๑ ปี ของเรือหลวงจักรีนฤเบศร กับการช่วยเหลือประชาชน




“ผู้เป็นใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี” เป็นความหมายของ เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือที่เป็นเขี้ยวเล็บสำคัญของกองทัพเรือ และเป็นเรือที่ได้รับมอบภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน มาครบ ๑๑ ปี ของการเข้าประจำการ ในวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๑
ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ เกิดพายุใต้ผุ่นเกย์ในอ่าวไทย บริเวณจังหวัดชุมพรนำความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สิน มาสู่พี่น้องประชาชนเป็นอย่างมากแม้กองทัพเรือ จะระดมสรรพกำลังทั้งหมดเข้าให้ความช่วยเหลือย่างเร่งด่วนแต่ด้วยขีดจำกัดของเรือ ของกองทัพเรือในขณะนั้นไม่สามารถทนสภาพทะเลและความรุนแรง เมื่อครั้งพายุไต้ฝุ่นเกย์ครั้งนั้นได้ ส่งผลให้ผู้ประสบภัยต้องรอคอยความช่วยเหลือเป็นระยะเวลานาน กองทัพเรือจึงตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดให้มีเรือขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อใช้ในการค้นหา และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลได้อย่างรวดเร็วทันสถานการณ์ รวมทั้งยังสามารถขยายพื้นที่ในการลาดตระเวน และระยะเวลาในการปฏิบัติการในทะเลได้เป็นเวลานาน ทำให้การปฏิบัติการในทะเลมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยกองทัพเรือได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดหาเรือ ตลอดจนศึกษาถึงการปฏิบัติภารกิจของเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์จนกระทั่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติในปี ๒๕๓๕ อนุมัติให้กองทัพเรือว่าจ้างสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ จำนวน ๑ ลำ จากบริษัทบาซาน ประเทศสเปน
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กองทัพเรือ เป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลประจำเรือ รวมทั้งเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ กองทัพเรือจึงได้ขอพระราชทานชื่อเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเรือลำนี้ว่า “เรือหลวงจักรีนฤเบศร” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้เป็นใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี” นอกจากนั้นในพิธีปล่อยเรือลงน้ำ กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งประเทศสเปน ทรงเสด็จร่วมในพิธีปล่อยเรือลงน้ำ ณ อู่บาซาน เมืองเฟโรล ประเทศสเปน เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๓๙ และในพิธีเจิมเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเจิมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ณ ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๐ นับเป็นสิริมงคลยิ่งแก่กองทัพเรือ นำความปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
๑๑ ปีของความภาคภูมิใจของเรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้มุ่งมั่นทำการฝึกเตรียมความพร้อมของเรือ ให้พร้อมปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหลังจากที่เรือหลวงจักรีนฤเบศร ขึ้นระวางประจำการได้มีการพัฒนารูปแบบการปฏิบัติการระหว่างเรือกับอากาศยานที่สมบูรณ์แบบ เป็นเรือรบที่มีระบบการสื่อสารที่สามารถตอบสนองในการเป็นเรือบัญชาการได้ เป็นเรือที่มีระบบอำนวยการรบที่ทันสมัย และที่สำคัญเป็นเรือที่มีเฮลิคอปเตอร์ในการช่วยค้นหาผู้ประสบภัย โรงพยาบาลขนาด ๑๕ เตียง และห้องพักของผู้ประสบภัย จึงทำให้ภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ มีความรวดเร็วสามารถลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์สำคัญที่ผ่านมา ประกอบด้วยในปี พ.ศ.๒๕๔๐ ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนซีต้าร์ซึ่งทำให้เกิดอุทกภัยในภาคใต้ตอนบน และจากพายุใต้ฝุ่นลินดา ที่ทำให้เกิดความเสียหายบริเวณจังหวัดชุมพร ปี พ.ศ.๒๕๔๓ เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา การคมนาคมถูกตัดขาด เรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ในการขนส่งสิ่งของอุปโภคบริโภคให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึง และในปี พ.ศ.๒๕๔๗ ฝันร้ายจากธรณีพิบัติภัยสึนามิ เรือหลวงจักรีนฤเบศรถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เรือได้ปฏิบัติการโดยใช้อากาศยานในการลาดตระเวนค้นหาศพผู้เสียชีวิต ส่งกำลังพลในการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตและขนส่งเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ผู้รอดชีวิตได้อย่างรวดเร็วนอกจากนั้น เรือหลวงจักรีนฤเบศร ยังได้รับมอบหมายให้เป็นเรือรับรองของพระบรมวงศานุวงศ์ และรับรองบุคคลสำคัญ ตลอดจนได้ให้การต้อนรับประชาชนทั่วไป ที่สนใจเข้าเยี่ยมเป็นจำนวนมาก เรือหลวงจักรีนฤเบศร นับเป็นเขี้ยวเล็บที่สำคัญ มีอานุภาพสูง ตอบสนองภารกิจ
ในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของกองทัพเรือ สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเมื่อเกิดสาธารณภัยต่าง ๆ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒ – ๔๗๕ – ๔๕๒๑

No comments: